วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ไหว้พระภูพุทโธ



ไปไหว้พระภูพุทโธ 

--------------
...........29 กันยายน 2559 เดินทางไปเมืองเลย เพื่อร่วมงานเกษียณครูที่เคยร่วมงานกันมา ช่วงปี
2516-2529 ปีนี้เกษียณ 3 คน ก็เลยแวะมาให้กำลังใจ ครูนกลูกสาวไปรับที่สนามบินพาไปกินข้าว

แถว กุดโง้ง แล้วกลับไปประชุมที่โรงเรียนศรีสงครามวิทยา  ตามไปด้วยและขอยืมรถไปดูวังสะพุง
เลิกเรียนกลับไปรับครูนก มาถึงบ้านราวห้าโมง ลูกชวนไปตลาดแลง หาซื้อของไปกินที่บ้านเมือง
แปดริ้ว เรานึกถึงตลาด บ้านนาอ้อเพราะของขายมากดีราคาไม่แพงจึงให้พาไปตลาดสดบ้านนาอ้อ
..........จากบ้านติ้ว ขึ้นถนนใหญ่มุ่งไปทางโรงพยาบาล ศาลากลาง กม.ศูนย์ ตรงสามแยก เลี้ยวขวา 

ไปทางท่าลี่เชียงคาน ผ่านสามแยกทองคำคือตรงหน้าวัดหนองแวงหรือวัดศรีวิชัยวนารามนั่นแหละ
เขาเรียกสามเหลี่ยมทองคำเลยไปนิดหนึ่งตลาดสดบ้านหนองผักก้าม แม่ค้ายังบางตาอยู่รถเริ่มมาก
ต้องระมัดระวังโดยเฉพาะรถทะเบียนลาวบ้านเขาเดินรถกลับข้างกับบ้านเรา เราไปซ้ายแซงขวา แต่
บ้านเขาไปขวาแซงซ้าย ผ่านหน้าโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาเลย ลูกสามคนจบ ป.6 ที่นี่มารับส่งประจำ
เลยไปอีกก็คือบ้านกำเนิดเพชร ที่คนกำลังยุ่งกับงานรับเสด็จ ตอนเที่ยงเรามารอบหนึ่งแล้ว ทาน

ข้าวเที่ยง ที่กุดโง้ง ตอนนี้รีบไปผ่านหน้าราชภัฎ เพื่อนที่ทำงานสอนอยู่นี่สองสามคนเกษียณไป
หมดแล้ว เหลือคน รู้จักก็แฟนครูนก เราผ่านไปอีกยังไม่ถึงปลายทาง
.........ผ่านสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเลย เขต 1 ที่มาติดต่องานตอนเที่ยงแก่ ๆนั่นแหละตรงนี้
เป็นสำนักงานใหม่ เดิมอยู่ในเขตเทศบาลเมืองเลย ตอนเกษียณก็ยังอยู่สำนักงานเก่า พอเราออกเขา

ได้ สำนักงานใหม่ ลูกน้องบางคนมันยั่วว่า เพราะเจ้านายเกษียณ ถึงได้สำนักงานใหม่ นึงว่าเราจะจน
แต้ม มีคำตอบนะแต่คำตอบมันเจ็บแสบมากเลยไม่ตอบ ปล่อยไป ผ่านขนส่งจังหวัดเลย มาสอบขอ
ใบขับขี่กัน ที่นี่ ครูนก คุณเหน่ง ส่วนคุณหมู ไปเรียนขับรถที่แปดริ้ว ไปเรียนสอบใบขับขี่ที่กรุงเทพฯ 
ได้ใบ ขับขี่ค่อยยอมให้ออกรถใหม่ ตอนนี้ขับไปทำงานได้เองแล้ว
..........ผ่านตลาดสดบ้านนาอ้อ แม่ค้ากำลังมากัน ครูนกบอกจะพาไปไหว้พระใหญ่ ก่อนค่อยกลับมา

นึกขำ ๆ นะสงสัยพระนักเลง ต้องไปซูฮกก่อนแบบนั้นรึเปล่า ครูนกชี้ให้ดูบนภูเขาข้างค่ายทหาร บอก
นั่นไงพ่อ ใหญ่ไหม เห็นไกล ๆ คงใหญ่มาก ตกลงไปไหว้พระก่อนก็ได้ ผ่านหน้าโรงพยาบาลตำบล
ที่เดิมเราเรียกสถานีอนามัยนั่นแหละ มาใช้บริการบ่อย เขาเปิดฝึกอบรมหมอนวดแผนไทย รุ่นครูก็
อายุ สูงหน่อย รุ่นศิษย์หน้าตาดีสวย ๆ มาฝึกเอาความรู้จะไปทำงานที่โรงแรม มาใช้บริการนวดแผน
ไทย เจอศิษย์หมอนวด เก่ง ๆทั้งนั้น มันนวดเก่งพูดเก่งจนเราหลับเลยแหละ
.......ผ่านหมู่บ้านไปถึงโรงเรียนนาอ้อวิทยา คุ้นเคยมากมานิเทศบ่อยเพราะใกล้แค่นี้เอง ด้านขวาเป็น

โรงพยาบาลค่ายศรีสองรัก ชื่อนี้ไม่มี ษ์ ถึงจะเป็นชื่อถูกต้อง มาจากชื่อพระธาตุศรีสองรัก พระธาตุก็
คือ เจดีย์ที่สร้างเป็นอนุสรณ์ ศรี ก็ ศิริมงคล สง่า งาม สองคือสองฝ่าย ได้แก่ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาสมัย
พระเจ้าจักรพรรดิและฝ่ายกรุงศรีสัตนาคนหุต สมัยพระเจ้าชัยเชษฐาธิราช รัก คือความรักใคร่กลม
เกลียวกัน ส่วนเขียน รักษ์ คือการพิทักษ์รักษา คนละความหมาย ใช้ให้ถุกละกัน เราเลี้ยวขวาไปทาง
โรงพยาบาลค่าย มีถนน เลียบผ่านขึ้นเขาไปเลย ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงที่จอดรถ ไม่ทันได้ดูทิวทัศน์เลย 
.........เห็นเขาเขียนป้าย ภูพุทโธ น่าจะให้เป็นชื่อภูเขา เดิมเขาลูกนี้ชื่อภูน้อย เห็นชาวบ้านเรียกกัน
ความจริงไม่น้อยหรอก ใหญ่โตมาก ๆ ต้นไม้ก็มืดมุงเต็มไปหมด เป็นที่หาของป่าอย่างดีของชาวบ้าน
รถปีนเขาแป้บเดียวก็จอดให้ลงได้เพราะถึงแล้ว มองไปเห็นด้านหลังองค์พระ ยายไปยืนวางท่าเป็น

แม่นางแบบ เรียกไปเก็บภาพให้หน่อย เสร็จแล้วเดินลับไปด้านหน้า เราตามไม่ทันเลย เด็ก ๆวิ่งหาย
ไป มุดตอไม้ขนาดใหญ่ มีสองตอ ครูนกบอกมันคือห้องน้ำ อ้อมิน่าเด็กชอบ ยายไปยืนกลางถนนด้าน
หลังให้ถ่ายภาพแล้วเดินอ้อมไปด้านหน้า พอตามไปเห็นยืนทำปากมุบมิบ ๆ พนมมือแต้ อ๋อกำลัง
ไหว้พระ รู้นะว่ากำลังขออะไร ใกล้วันหวยออกแล้ว ขอหวยแหงเลย เคยดูเฟสยาย หวยเต็มไปหมด
ไม่รู้ได้มา จากอาจารย์ไหนบ้าง เคยแซวแกนะว่า ซื้ออะไรก็ได้อันนั้นแหละ ซื้อเสื้อผ้าก็ได้เสื้อผ้า
ซื้อหวยก็ต้อง ได้หวย ถึงอยากได้รางวัลมันก็ไม่ค่อยจะได้หรอก ใบหวยเต็มบ้านแล้ว แกหัวเราะ
อบใจแต่ยังไม่เลิก 
........ไปไหว้พระ สังเกตดูช่างฝีมือเยี่ยมจริง ๆ พุทธลักษณะงดงาม ทำให้นึกถึงพระพุทธเจ้า ถึง
ท่านจะเป็นชาวอินเดียสมัยโบราณ แต่ท่านเป็นอัจฉริยะบุคคลที่หาได้ยากยิ่งในโลกใบนี้ ตำรามหา
ปุริสลักษณะของศาสนาพราหมณ์เขียนไว้นานก่อนท่านเกิด พวกพราหมณ์เองก็นึกว่าเขียนไว้ให้ดู
น่าอัศจรรย์ แต่พอเห็นสิทธัตถกุมารก็อัศจรรย์จริง ๆ เพราะมีคุณลักษณะตรงตามตำราทุกประการ
ทำให้เป็นคนน่ารักน่าศรัทธามาแต่เยาว์วัย เมืองกบิลพัสดุ์ร่ำรวยมาก โดยเฉพาะความอุดสมบูรณ์

ด้าน ธัญญาหาร จนตั้งชื่อเจ้าชายต่าง ๆเกี่ยวข้องกับข้าวปลาอาหารทั้งนั้น สุทโธทนะ สุกโกทนะ
 ฯลฯ ราชสมบัติมั่งคั่ง กองทัพเข้มแข็ง บริวารมากมาย  รวมแล้วมีค่ามหาศาลวางอยู่แทบเท้า กลับ
ออกบวชไม่สนใจ จิตใจเด็ดเดี่ยวอะไรปานนั้น 6 ปีที่มุ่งมั่นจนบรรลุโมกขธรรม ด้วยความเมตตายัง
ช่วยสั่งสอนสาวกนาน ถึง 45 ปี และสอนกันจนนาทีสุดท้าย ที่จดจำกันได้ดีว่า ท่านย้ำอย่าประมาท
เป็นสุดยอดคำสอน ยกมือไหว้พระพุทธรูปแต่ใจนึกถึงพระศาสดา สาธู ท่านผู้มีมหากรุณาต่อชาว
โลก 
.........จบไหว้พระเดินไปชมวิว ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก็ดูดีนะสวย ๆทั้งนั้น น่าสังเกตคือตอนนี้ยังไม่มี
การบูชาแบบนอกรีตนอกศาสนามาปะปน ก็ไหว้ด้วยความสบายใจ อย่าลืมนะที่นี่คือพุทธสถาน อย่า

ได้นำ การเคารพบูชาเทพ ภูติผีมาปะปนไว้เลย ขอซักแห่งเถอะ เพราะตอนนี้ลัทธิแปลก ๆมันรุกเข้า
ไปถึงใน พระอุโบสถได้แทบทุกวัดแล้ว สาธุ ขอให้ที่นี่อย่าเป็นเหมือนที่อื่นเลย
..........ลงมาจากไหวะพระห้าโมงเศษ ตลาดขวักไขว่ด้วยแม่ค้าและคนซื้อ ของสดจากป่า จากสวน
เยอะมาก ราคาไม่แพง ยายเดินลิ่ว ๆ ได้รอบหนึ่ง หิ้วของมาเต็มสองมือ ต้องขอไปเก็บที่รถให้ เรา

ชอบดู มากกว่าซื้อ หน่อไม่บงต้มสุกถุงละสิบบาท มีส้มปลาน้อยถุงละสิบบาทวางคู่กัน คนเลยกิน
หน่อไม้ต้ม ต้องกินกับส้มปลาน้อย หรือส้มปลาจ่อม มีสองแบบ สุก กับ กำลังจะสุก หน่อไม้หวาน 
ต้องเมืองเลย มีหลายพันธ์ุหักมาเคี้ยวดูหวานจริง ๆ เลยต้องซื้อให้สองกิโลจะเอาไปผัด ต้มจืด  มี
หน่อไม้รวก แบบที่ เขาอัดปี๊บมาขายนั่นแหละ แต่นี่หน่อไม้ดิบ ๆสด ๆ ถามเขาว่าเอาไปทำอะไร 
เขาว่าแกงดิบ ๆ ก็ได้ เอา ไปเผาสุกแล้วค่อยเอาไปแกงก็ดี หน่อยไม้ซางแบบ"หน่อนางดิน" ที่มัน
โผล่ดินแต่ปลายแหลม ๆ ไปหา ต้องขุดดินลงไปสับเอาหน่อนางดิน สีขาวนวล ต้มจืดแล้วจะหวาน
มาก ๆ คนแก่ชอบ ตำน้ำพริกอ่อน น้ำปลาร้านัว ๆ บีบมะนาวราด กินได้กินดี อร่อยมาก ซื้อมาสอง
ถุง 40 บาท ต้มจืดแล้ว 
..........ไปดูแผงลอยขายผัก พริกผักฟักแฟงแตงกวาแตงร้านเต็มไปหมดราคาไม่แพง ยายหอบมา
อีกแล้ว ฟักทองอ่อน น้ำเต้าอ่อน บวบหอม บวบเหลี่ยม บวบงู ไม่กล้าถามซื้อไปทำไม คงเพราะมัน
สด ราคาถูกกว่าตลาดบ่อบัวแปดริ้ว เราตามหาผักพื้นบ้านอื่น ๆ เจอยอดจิกผักกระโดนป่า ผักกระ
โดนน้ำ ผักเม็ก ผักคะย่า ยอดส้มป่อย ซื้อหมดอย่างละกำ กำละ 5 บาท กำใหญ่ ๆนะนี่ ไปเจอมะระ
ป่าของแท้ ทั้งยอดอ่อนและลูกดิบ เหมาะเอามาหมด ของโปรดนี่นา หายากมาก จวนค่ำกำลังจะ
กลับ เจอคนมุงสาวสวยคนหนึ่ง แวะไปดูกำลังขายปลากดสด ๆจากแพที่เลี้ยงเอง ไข่ทุกตัวกิโล
ละ 150 
บาท อุดหนุนไป 1 กิโลกรัม กลับกันก็เกือบมืด 
..........เขามีกับข้าวสำเร็จมา แต่เราบอกให้ต้มปลากดให้หน่อย ไม่ต้อง"คัว"นะ เพราะปลาไข่เต็ม
ท้อง ต้มน้ำเดือด ๆ ใส่ข่าตะไคร้ใบส้มป่อย น้ำเดือดก็ใส่ปลาลงไป จนปลาเปื่อยค่อยเติมปลาร้า พริก
ดิบบุบพอแตก สุดท้ายก็ใบแมงลัก ชิมแล้วปรุงรส อาหารค่ำเขาวางอาหารสำเร็จกันหันมาลุยต้มส้ม
ปลากดใส่ยอดส้มป่อย ครูนกบอกไม่นึกว่ามันจะอร่อยมากขนาดนี้ 
..........วันแรกก็อร่อยมากแล้ว วันรุ่งขึ้นไปกินลี้ยงคงอร่อยแบบงานเลี้ยง มีเวลาแวบไปภูป่าเปาะที่ 
โพสไปแล้วนั่นแหละ ตอนเย็นงานเลียงครูเกษียณ สำหรับวันนี้ได้ไปไหว้พระใหญ่ ได้แวะตลาด
สดบ้าน นาอ้อ ได้ปลากดสด ๆ มาทำต้มยำใส่ใบส้มป่อย อร่อยจริง ๆ นอนหลับสบาย ๆ 




คนนี้แหละเขียน
8 ตค. 2559


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น