บ้านของเรา
......ผมอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 28/68 ถนนศรีโสธรตัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทราเจ้าของบ้านชื่อ น.ส. นิภา ณรงค์หนู ต่อมาปลี่ยนเป็น น.ส.อรภา ณรงค์หนู แล้วก็เปลี่ยนเป็น น.ส.ธนัญธร ณรงค์หนู รายชื่อในทะเบียนบ้านอีกคนหนึ่งชื่อน.ส.ชนารัตน์ ณรงค์หนู ต่อมาก็เปลี่ยนเป็น น.ส.เตชินี ณรงค์หนู และก็เปลี่ยนเป็นบุลธนี ณรงค์หนู 3 ชื่อแรกคือแม่ สามชื่อหลังคือลูกสาว รวมเป็นสองคน ไม่ใช่หก คน เขาชอบและเชื่อเรื่องโชค ชตา มงคล เลยหาชื่อที่มันดูดีหน่อย ส่วนกระผมไม่ได้มีชื่อในทะเบียนบ้านหรอกลูกสาวเขาขอยืมไปใช้เป็นเจ้าของบ้านที่จังหวัดเลย บ้านเลขที่ 62 ถนนมลิวัลย์ ตำบลกุดป่องอำเภอเมือง จังหวัดเลย
...............หัวหน้าครอบครัวปัจจุบันชื่อ น.ส. ธนัญธร ณรงค์หนู เพิ่งเกษียณเมื่อปี 2549 ถึงปีนี้ก็ครบ 10 ปีพอดี ผมสู่ขอเขากับคุณยายบุญเติม ณรงค์หนู แล้วก็จัดเลี้ยงขอบคุณเล็ก ๆให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูง จัดแบบง่าย ๆ แต่ก็อยู่กันมาสิบกว่าปีแล้ว ไม่มีลูกด้วยกัน แต่ผมชอบเรียกเขาว่า คุณยาย เพราะมันบอกให้รู้ว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดีกว่าจะไปเรียกหนูนั่นหนูนี่ เดี๋ยวเกิดเขาคิดว่าเป็นหนูจริง ๆ ยุ่งตายห่าละซิ คุณยายแกจบพยาบาลศาสตร์ จากวิทยาลัยพยาบาลจันทบุรีเลยทำงานเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดฉะเชิงเทราจนเกษียณ คุณยายเป็นคนมีน้ำใจ เพื่อนฝูงพี่น้องรักใคร่ สังเกตตอนมาติดต่อโรงพยาบาลมีคนทักตลอดทาง เห็นแกทักทายไปเรื่อย กว่าจะถึงจุดหมายแวะหลายจุดยังกะรถเมล์
.............คุณยายมีบุตรบุญธรรม 1 คน ก็มี 3 ชื่อเหมือนกัน สุดท้ายก็ชื่อบุลธนี ณรงค์หนู เขาจบปริญญาตรี เอกวิทย์คอมจาก ม.รังสิต ทำงานสาขาที่เรียนมานั่นแหละ ที่ทำงานอยู่แถวสุวินทวงศ์ แม่ออกรถเก๋งน้อยให้คันหนึ่งขับไปทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน หยุดให้วันอาทิตย์วันเดียว
..............นางชาน แม่บ้านชาวพม่า อยู่กันมาตั้งแต่เป็นสาว ตอนนี้มีลูกชาย 1 คน สามีเป็นคนทางบ้านเดียวกัน ทำงานรับจ้างกับบริษัทก่อสร้าง ชานเป็นคนที่ยายรักใคร่เหมือนลูกสาว ใช้งานไม่หนักอะไร มีเวลาพักผ่อนมาก ไปนอกบ้านก็พาไปด้วย มีลูกก็ช่วยเลี้ยงเหมือนหลาน เลยอยู่กันแบบคนในครอบครัว บ้านพักเขาอยู่ใกล้บ้านเรามอง เห็นประตูบ้านเขาอยู่ ผมเรียกเขาอาชาน นิสัยเหมือนเด็ก ๆ สังเกตเวลาจะไปบ้านปกติเดินออกประตูหน้าบ้านแล้วเดินอ้อมไปสัก 150 เมตร ก็ถึง แต่อาชานมันถกผ้าถุงปีนข้ามกำแพงบ้านไป ไม่ถึง 20 เมตร ก็บ้านมัน ใกล้ดีมันบอก เคยด่ามันว่าระวังเหอะเดี๋ยวปีนพลาด ร่วงลงมาเอ็งจะได้เพิ่มหลายรู มันหัวเราะแหะ ๆ ไม่นานก็ปีนอีก เด็กจริง ๆ
.............เด็กชายกำปั้น ตอนท้องแม่่มันก็มาทำงานตามปกติ แพ้ท้องก็นอนพักให้ยายดูแลพาไปฝากท้อง จนกระทั่งคลอดเป็นเด็กชาย สองแม่ลูกตั้งชื่อให้ เด็กชายกำปั้น เราก็เตือนนะว่าชื่ออย่างนี้ โตขึ้นจะเป็นปมด้อย แต่เขาก็เอาจนได้ เด็กสมาธิสั้น ดื้อเหมือนกัน ดุก็หยุดเดี๋ยวเดียวก็ดื้ออีก พอโตขึ้นยายไปฝากเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดโสธร เรียนหนังสือเก่งอ่านคล่อง แต่คิดเลขยังไม่เก่ง ตอนนี้เขาอยู่ ป.1 ได้รางวัลเรียนเก่ง เป็นทุนการศึกษาด้วย
.............สัตว์เลี้ยงเราเป็นหมา 6 ตัว เคยเขียนถึงบ่อย เพราะน่ารักทุกตัว แต่ละตัวก็นิสัยแตกต่างกัน คราวหนึ่งติดเห็บหมัด กว่าจะรู้ระบาดครบหกตัว น่ากลัวมาก สัตวแพทย์แนะนำให้ฉีดยา อาบน้ำทำความสะอาด หลายเดือนกว่าจะหมดไป เดี๋ยวนี้ต้องฉีดยาเดือนละเข็มค่อยหมดห่วง กรงก็ติดสปริงเกอร์สำหรับล้างทำความสะอาด และอาบน้ำให้ด้วย
..............พวกตัวใหญ่มี เจ้าบึ๊ก เจ้าบั๊ก นังซูการ์และนังซู่ซ่า ขังไว้ในกรงใหญ่ที่เรียกคอนโดหมานั่นแหละ ตอนเย็นปล่อยออกมาวิ่งทั้งคืน ตอนเช้าค่อยต้อนเข้ากรง วันหนึ่งสังเกตดูหายไปหนึ่งตัว เจอแต่ซูการ์ ซู่ซ่าและเจ้าบึ๊ก ปรากฏว่าเจ้าบั๊ก วิ่งเข้ากรงไปก่อนแล้ว ไม่นาน ก็หายหมด พอตามหาพบเดินอยู่หน้ากรง เราตามไปก็เข้ากรงเองโดยดี เดี๋ยวนี้มันพัฒนากันพอเราเปิดประตูบ้านจะลงไปต้อนเข้ากรง มันไปยืนรอหน้ากรงแล้ว เลยบอกยาย ให้เปิดหน้าต่างดูหมาเดินแถวเข้ากรงนะ เราก็เดินไปเปิดประตูบ้าน หมาได้ยินเสียง เดินอ้อมบ้านไปยินเสียงยายหัวเราะชอบใจ ลงไปเดินตามหมามันด้วย วันหลังคนต้อนหมาเข้ากรงเลยเป็นยาย ต่อไปจะหาธงแดงให้มันคาบนำแถวไป
.............ตัวเล็กคือ คุกกี้กับทาโร่ เป็นหมาคุณหนู ยายรักมาก มักจะมีของกินแถมให้บ่อย ๆพวกลูกชิ้น ไก่ย่าง ใส้กรอก พอตัวใหญ่เข้ากรงก็จะปล่อยตัวเล็กออกมาวิ่งบ้าง มันวิ่งมาหน้าประตูแล้วเห่าทัก แรก ๆก็ให้ขนมปัง จนมันรู้ว่า เห่าทีไรได้กินทุกที ยายออกมายืนหน้าประตูเรียกชื่อมัน หมามันก็เห่าดีใจ คล้ายจะบอกว่า อู้อู อู้อู แบบเด็กดีใจ ยายก็อุ้มซ้ายขวา เลยบอกยายว่ามันร้องขอขนมกิน ยายเชื่อหาขนมใหญ่เลย วันหลังจึงมีลูกชิ้น ไก่ย่าง ติดไว้ในครัว มันขยันเห่ามาก เพราะเห่าทีไรได้ของกินทุกที จนเป็นดาราประจำบ้านไปแล้ว
...........ก็เขียนถึงคนอื่นไปแล้ว ตัวเองจะไม่เขียนถึงก็คงไม่เป็นธรรม ตาเป็นคนบ้านนอกโดยกำเนิด ชอบชีวิตแบบชาวไร่ชาวนาแต่เส้นทางชีวิตมันผกผันให้ได้ไปอยู่ประจำที่โรงเรียนกินนอนที่เกษตรกรรมชัยภูมิ 3 ปี จากเด็กเกเรไม่เอาถ่าน กลายเป็นเด็กมีระเบียบวินัยขยันทำงานหนักเอาเบาสู้ ได้ทำนาช่วยพ่อแม่ 7 ปียิ่งแกร่งงานเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ได้บวช7 พรรษาฝึกอบรมระเบียบวินัย ศีลธรรมจนมึความรู้ระดับสอนชาวบ้านได้ การศึกษาก็เรียนจบ นักธรรมเอก เปรียญ 4 ประโยค ปริญญาตรีเอกภาษาไทย ปริญญาโทเอกวิธีสอนภาษาไทยการศึกษาทุกอย่างเรียนเอาความรู้นะ ไม่ได้เรียนแค่เอาจบ ฝึกเขียนร้อยกรองจนเขียนได้คล่องพอ ๆ กับเขียนร้อยแก้ว เอ้อ...พอละจบดีกว่า เดี๋ยวคนอ่านจะลำบากอ๊วกซะก่อน
------------------------
30/11/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น