ทำบุญขาดทุนมีด้วยเหรอ
..........ทำบุญขาดทุน มีด้วยเหรอ เป็นพุทธวจนะมีอ้างอิงในพระไตรปิฎกไหม อ๋อ มีครับ แต่ไม่ใช่คำของ
พระพุทธเจ้าตรัสหรอก เลยไม่มีอ้างในพระไตรปิฎกผมพูดเองเวลาสอนชาวบ้านสอนลูกหลานว่าทำบุญอย่า ให้ขาดทุนนะ แล้วมันจริงไหม แน่นอนครับ เพราะพูดโดยยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นแหละ
.........พระพุทธเจ้าสอนอะไรเกี่ยวกับการทำบุญ ท่านสอนว่าศาสนิกชนต้องขยันทำบุญอย่าขี้เกียจ พระหรือ โยมไม่ต่างกัน ต้องขยัน ท่านบอกวิธีทำด้วยว่ามี 3 แนวทางคือ ทานมัย สีลมัยและภาวนามัยก็บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการนั่นไง รู้ชื่อกันทั้งเมืองแหละไม่ใช่คำแปลกอะไร แต่ถามหน่อยนะว่า มีจุดประสงค์อะไรถึงทำทาน ต้องการอะไรถึงปฏิบัติสีล มีประโยน์อะไรถึงภาวนา อย่าเพิ่งตอบนะ จดไว้ในใจก่อน เดี๋ยวผมจะขยายความ ให้ฟัง และเทียบดูว่าได้สักกี่คะแนน
.......ทานมัย แปลว่า บุญเกิดจากการทำทาน แสดงว่าบุญตัวนี้ทำวิธีนี้เท่านั้นถึงจะได้ แล้วตัวบุญที่เกิด
มันเป็นแบบไหน มันเกี่ยวข้อกับกิเลสตัวหนึ่งคือความโลภเป็นลูกหลานมันชื่อว่ามัจฉริยะความขี้เหนียว
ความตระหนี่ มันเกาะอยู่ที่ใจเรานี่แหละ อยากรู้เรามีตัวใหญ่ไหม ลองควักแบงค์พันออกมาบริจาคดูสิ
มัน จะคอยห้ามว่าอย่า ๆ ๆ ๆ ๆ เก็บไว้ก่อน เอาแบงค์ 20 ให้เขาไป มันแหละมัฉจริยะ ปฏิบัติธรรมไม่พัฒนาไป ไม่ถึงไหนซักที เพราะความโลภมันตัวโตอยู่ จะไปสู่แดนอริยะ ต้องกำจัดความโลภ ซึ่งต้อง
ใช้เวลานาน ท่านจึงสอนให้ทำทานกันบ่อย ๆ จะได้ถากโลภะให้เบาบางไปเรื่อย ๆ
...........สีลมัย แปลว่าบุญเกิดได้จากการปฏิบัติศีล ไม่ใช่จำศีลนะ แค่จำได้ ทุกข้อ บุญยังไม่เกิด ต้อง
ปฏิบัติ บ่อย ๆ จนศีลติดตัวเรา มีด้วยเหรอศีลติดตัว มีซิ ติดเป็นนิสัยไง เจอสัตว์งูตัวเล็ก ๆ หาไม้จะฟาด
ให้ตาย ศีลข้อปาณามันปัดมือไว้อย่าทำ ๆ เห็นทองเส้นโต ๆ ตกหล่น หยิบมา ศีลอทินนามันห้าม บอก
เอาไป แจ้งความหาเจ้าของดีกว่า คนสวยมานั่งเบียดร้อนฉ่าเลยศีลข้อสามมันบอกไฟชัด ๆระวังหน่อย
นี่การ ปฏิบัติศีลได้บุญต้องแบบนี้ เลยปฏิบัติได้ตลอดเวลา ไม่ต้องไปจำศีล ขนาดพระเณรยังไม่จำเลย ลองให้เณร ท่องสิบข้อให้ฟังสิ ท่องไม่ได้หรอก เพราะจำไม่ค่อยได้ พระยิ่งแล้วใหญ่ 227 ข้อ ใครจะจำไหว ผมเคยบวชนะแต่ไม่เคยชวนโยมมาจำศีล เพราะอยากให้ปฏิบัติศีลมากกว่า ปฏิบัตืศีลที่บ้าน ที่
ทำงาน จะเห็นประโยชน์ ศีลได้ง่าย ลองดูสิ ครอบครัว 5 คน พ่อแม่ลูกมีศีลทุกคนจะดีเลิศขนาดไหน
อ้อเกือบลืม ทำไมพระพุทธเจ้า สอนให้ปฏิบัติศีล เพราะทั้ง 5 เรื่องเป็นตัวก่อโทสะ ทำให้ใจเร่าร้อน หาความสงบเย็นยาก ปฏิบัติศีลจะช่วย ให้โทสะเบาบางลง กลายเป็นคนใจดีมีเมตตากรุณาซื่อสัตย์
ไม่ประมาท
..........ภาวนามัย บุญเกิดได้จากการศึกษาอบรม ภาวนาแปลว่าอบรม ทำให้เจริญ ภาวนาแล้วจะเกิดปัญญา เมื่อมีปัญญาก็กระทบกิเลสตัวเอ้คือ โมหะ ความโง่เขลา เพราะโง่เขลานี่แหละเราจึงเดินหา
ความเจริญไม่ค่อย เจอ แถมโดนหลอกง่ายด้วย มันหลอกให้กราบคางคกก็เอา อยากได้หวยนี่ ถ้ามีปัญญาก็รู้ได้ว่า กูจบปริญญา ยังไม่รู้เลยหวยจะออกตัวไหน คางคกเองไม่รู้หนังสือจะไปรู้หวยได้ไง
ปัญญามันดีนะชำระโมหะได้ ท่านจึง สอนให้ภาวนามาก ๆ จะได้ฉลาด ความฉลาดนั่นแหละคือ กุสล
คำว่ากุสล แปลว่า ฉลาด ภาวนาแล้วถ้ายังไม่ ฉลาด กุสล ก็ไม่เกิด ไม่ใช่บุญ
..........สรุปการทำบุญด้วยวิธี ทานมัย เพื่อขัดเกลา โลภะ ปฏิบัติศีลมัยเพื่อขัดเกลาโทสะและทำภาวนามัย เพื่อขัดเกลาโมหะเมื่อรู้จุดประสงค์หลักการทำบุญเช่นนี้แล้ว ก็ไม่ยากที่จะอธิบายข้อความที่กระผมยกไว้ เป็นหัวเรื่องว่า ทำบุญแล้วขาดทุน มีจริงไหม เหมือเราทำไร่ทำนา เราก็มีจุดหมายอยากได้อะไร ผลผลิต น้อยบางทีก็ขาดทุน ไปค้าขายขาดทุนบ่อย แบบนั้นแหละทำบุญก็ขาดทุนได้ถ้าไม่เป็นไปตามจุดหมาย ที่เราคาดหวังไว้
ปฏิบัติ บ่อย ๆ จนศีลติดตัวเรา มีด้วยเหรอศีลติดตัว มีซิ ติดเป็นนิสัยไง เจอสัตว์งูตัวเล็ก ๆ หาไม้จะฟาด
ให้ตาย ศีลข้อปาณามันปัดมือไว้อย่าทำ ๆ เห็นทองเส้นโต ๆ ตกหล่น หยิบมา ศีลอทินนามันห้าม บอก
เอาไป แจ้งความหาเจ้าของดีกว่า คนสวยมานั่งเบียดร้อนฉ่าเลยศีลข้อสามมันบอกไฟชัด ๆระวังหน่อย
นี่การ ปฏิบัติศีลได้บุญต้องแบบนี้ เลยปฏิบัติได้ตลอดเวลา ไม่ต้องไปจำศีล ขนาดพระเณรยังไม่จำเลย ลองให้เณร ท่องสิบข้อให้ฟังสิ ท่องไม่ได้หรอก เพราะจำไม่ค่อยได้ พระยิ่งแล้วใหญ่ 227 ข้อ ใครจะจำไหว ผมเคยบวชนะแต่ไม่เคยชวนโยมมาจำศีล เพราะอยากให้ปฏิบัติศีลมากกว่า ปฏิบัตืศีลที่บ้าน ที่
ทำงาน จะเห็นประโยชน์ ศีลได้ง่าย ลองดูสิ ครอบครัว 5 คน พ่อแม่ลูกมีศีลทุกคนจะดีเลิศขนาดไหน
อ้อเกือบลืม ทำไมพระพุทธเจ้า สอนให้ปฏิบัติศีล เพราะทั้ง 5 เรื่องเป็นตัวก่อโทสะ ทำให้ใจเร่าร้อน หาความสงบเย็นยาก ปฏิบัติศีลจะช่วย ให้โทสะเบาบางลง กลายเป็นคนใจดีมีเมตตากรุณาซื่อสัตย์
ไม่ประมาท
..........ภาวนามัย บุญเกิดได้จากการศึกษาอบรม ภาวนาแปลว่าอบรม ทำให้เจริญ ภาวนาแล้วจะเกิดปัญญา เมื่อมีปัญญาก็กระทบกิเลสตัวเอ้คือ โมหะ ความโง่เขลา เพราะโง่เขลานี่แหละเราจึงเดินหา
ความเจริญไม่ค่อย เจอ แถมโดนหลอกง่ายด้วย มันหลอกให้กราบคางคกก็เอา อยากได้หวยนี่ ถ้ามีปัญญาก็รู้ได้ว่า กูจบปริญญา ยังไม่รู้เลยหวยจะออกตัวไหน คางคกเองไม่รู้หนังสือจะไปรู้หวยได้ไง
ปัญญามันดีนะชำระโมหะได้ ท่านจึง สอนให้ภาวนามาก ๆ จะได้ฉลาด ความฉลาดนั่นแหละคือ กุสล
คำว่ากุสล แปลว่า ฉลาด ภาวนาแล้วถ้ายังไม่ ฉลาด กุสล ก็ไม่เกิด ไม่ใช่บุญ
..........สรุปการทำบุญด้วยวิธี ทานมัย เพื่อขัดเกลา โลภะ ปฏิบัติศีลมัยเพื่อขัดเกลาโทสะและทำภาวนามัย เพื่อขัดเกลาโมหะเมื่อรู้จุดประสงค์หลักการทำบุญเช่นนี้แล้ว ก็ไม่ยากที่จะอธิบายข้อความที่กระผมยกไว้ เป็นหัวเรื่องว่า ทำบุญแล้วขาดทุน มีจริงไหม เหมือเราทำไร่ทำนา เราก็มีจุดหมายอยากได้อะไร ผลผลิต น้อยบางทีก็ขาดทุน ไปค้าขายขาดทุนบ่อย แบบนั้นแหละทำบุญก็ขาดทุนได้ถ้าไม่เป็นไปตามจุดหมาย ที่เราคาดหวังไว้
..........ทำทานเพื่อขจัดโลภะ แต่ไม่ระมัดระวังหลงไปสะสมความโลภตัวใหม่ ทำทานไปยี่สิบบาทใส่
ซอง ผ้าป่า ใส่บาตรพระ เสร็จแล้วก็มานั่งสร้างโลภตัวใหม่ สาธุชาติหน้าร่ำรวยเงินทองมหาศาล ได้
เกิดบนสวรรค์ มีวิมานแก้ววิมานทอง ฯลฯ ประมาณราคาหลายร้อยล้าน สละยี่สิบบาท อยากได้ร้อย
ล้าน อันนี้ขาดทุนแน่ ๆ ...จำศีลทุกวันพระ กลับมาบ้านกลายเป็นคนเจ้าระเบียบเห็นคนอื่นไม่ได้จำศีล
เป็นพวกบาป ครอบครัวก็เครียด ไม่เป็น สุคติง ยันติ ปฏิบัติศีลแล้วบ้านเป็นสุคติ นิพพุติง ยันติ ปฏิบัติ
ศีลแล้วจะเข้าถึง ความดับทุกข์ ผู้ถือศีล บางคนกลายเป็นคนขี้โมโห ว่ากล่าว ตักเตือนไม่ได้ นี่ก็ขาด
ทุนนะ ลองแนะนำพวกถือศีลดูสิ ว่าถือศีลแล้ว อย่าขี้โมโหนะ อย่าแอบหยิบเงินนะ อย่าขี้เมานะ ถ้าไม่
เจ็บตัวก็ใช้ได้แสดงว่าเย็นลง ส่วนพวกภาวนาบ่อย ๆ กุสล คือ ความฉลาดเกิด โมหะความงมงายก็
ค่อย ๆจางไป เคยกราบลูกวัวสองหัวก็ไม่ทำ ขูดเปลือกไม้ก็เลิก เรียนหนังสือเก่ง แบบนี้ถึงจะดี แต่ถ้าโมหะหนักหนากว่าเดิมก็ใช้ไม่ได้ เช่นกลับบ้านมาบอกเห็นผีมาขอส่วนบุญ เห็นหวยสามตัว แบบนี้มันหนักกว่าเดิมอีก ทำบุญแล้วขาดทุนเป็นแบบนี้เอง
..........ทำทานแล้วอย่าไปอยากได้โน่นอยากได้นี่ พระท่านแนะให้อุทิศส่วนบุญน่ะดีแล้ว จะได้ลืมเรื่องสวรรค์ วิมานไป อุทิศบุญได้บุญแถมมาอีก สีลมัยก็เช่นกัน ไหว้พระสวดมนต์เสร็จก็ทบทวนศีลบริสทธิดีทุกข้อ บุญ ก็เห็น ๆ อุทิศต่อเลย ภาวนากลับมาทบทวนดูอบรมมาได้กุสลคือความฉลาดกี่มากน้อย เป็นบุญนะ อุทิศต่อ ฝึกแบบนี้การทำบุญไม่ขาดทุนแน่ เพราะไม่ได้ใช้บุญในทางที่ผิด ไม่เพิ่มโลภะ โทสะหรือโมหะ เอาไป ใช้ประโยชน์ได้ครับ สวัสดี
ซอง ผ้าป่า ใส่บาตรพระ เสร็จแล้วก็มานั่งสร้างโลภตัวใหม่ สาธุชาติหน้าร่ำรวยเงินทองมหาศาล ได้
เกิดบนสวรรค์ มีวิมานแก้ววิมานทอง ฯลฯ ประมาณราคาหลายร้อยล้าน สละยี่สิบบาท อยากได้ร้อย
ล้าน อันนี้ขาดทุนแน่ ๆ ...จำศีลทุกวันพระ กลับมาบ้านกลายเป็นคนเจ้าระเบียบเห็นคนอื่นไม่ได้จำศีล
เป็นพวกบาป ครอบครัวก็เครียด ไม่เป็น สุคติง ยันติ ปฏิบัติศีลแล้วบ้านเป็นสุคติ นิพพุติง ยันติ ปฏิบัติ
ศีลแล้วจะเข้าถึง ความดับทุกข์ ผู้ถือศีล บางคนกลายเป็นคนขี้โมโห ว่ากล่าว ตักเตือนไม่ได้ นี่ก็ขาด
ทุนนะ ลองแนะนำพวกถือศีลดูสิ ว่าถือศีลแล้ว อย่าขี้โมโหนะ อย่าแอบหยิบเงินนะ อย่าขี้เมานะ ถ้าไม่
เจ็บตัวก็ใช้ได้แสดงว่าเย็นลง ส่วนพวกภาวนาบ่อย ๆ กุสล คือ ความฉลาดเกิด โมหะความงมงายก็
ค่อย ๆจางไป เคยกราบลูกวัวสองหัวก็ไม่ทำ ขูดเปลือกไม้ก็เลิก เรียนหนังสือเก่ง แบบนี้ถึงจะดี แต่ถ้าโมหะหนักหนากว่าเดิมก็ใช้ไม่ได้ เช่นกลับบ้านมาบอกเห็นผีมาขอส่วนบุญ เห็นหวยสามตัว แบบนี้มันหนักกว่าเดิมอีก ทำบุญแล้วขาดทุนเป็นแบบนี้เอง
..........ทำทานแล้วอย่าไปอยากได้โน่นอยากได้นี่ พระท่านแนะให้อุทิศส่วนบุญน่ะดีแล้ว จะได้ลืมเรื่องสวรรค์ วิมานไป อุทิศบุญได้บุญแถมมาอีก สีลมัยก็เช่นกัน ไหว้พระสวดมนต์เสร็จก็ทบทวนศีลบริสทธิดีทุกข้อ บุญ ก็เห็น ๆ อุทิศต่อเลย ภาวนากลับมาทบทวนดูอบรมมาได้กุสลคือความฉลาดกี่มากน้อย เป็นบุญนะ อุทิศต่อ ฝึกแบบนี้การทำบุญไม่ขาดทุนแน่ เพราะไม่ได้ใช้บุญในทางที่ผิด ไม่เพิ่มโลภะ โทสะหรือโมหะ เอาไป ใช้ประโยชน์ได้ครับ สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น