วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

มงคลชีวิต


                มงคลคือเรื่องที่เป็นความดีความงาม เป็นศิริ เป็นศรีสง่า แก่ผู้ปฏิบัติ สมัยพุทธกาลมีคนสอน
มงคลแตกต่างกันไปจนหาข้อสรุปยาก ครั้งหนึ่งพากันไปพบพระพุทธเจ้า ถามถึงเรื่องที่เป็นมงคลแก่
ชีวิตท่านสอน ว่า ทำเรื่อง 38 ประการต่อไปนี้จะเป็น มงคลแก่ชีวิต และเป็น อุดมมงคลคือมงคลอันสูงสุด ข้อสังเกตคือ ทุกเรื่องที่ท่านสอน เป็นความจริง ใครปฏิบัติก็เป็นมงคลที่ดียิ่งสำหรับผู้นั้น  พุทธศาสนิกชนเราเมื่ออยากได้มงคลแก่ชีวิต ลองเลือกไปปฏิบัติดู แล้วเราจะได้มงคลตามปรารถนา เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นได้คัดเอาบทสวดมงคลสูตร พร้อมคำแปลจากหนังสือสวดมนต์แปล มาให้อ่านดูด้วยครับ
---------------

ขุนทอง ศรีประจง



มงคลสูตร + คำแปล
.........เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา  เตนุปะสังกะมิ อุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อะภิวาเทตวา เอกะมันตัง อัฏฐาสิ ฯ เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิฯ 
.........ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี ครั้งนั้นแล ครั้นปฐมยามล่วงไปแล้ว เทวดาตนหนึ่งมีรัศมีงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า
..........พะหู เทวา มะนุสสา จะมังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานังพรูหิ มังคะละมุตตะมังฯ 
หมู่เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก ผู้หวังความสวัสดี ได้คิดถึงเรื่องมงคลแล้ว ขอพระองค์ทรงตรัสบอกทางมงคลอันสูงสุดเถิด  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า 
..........  อะเสวะนา จะ พาลานัง.............. ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา 
............ปูชา จะ ปูชะนียานัง....................เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
            1. การไม่คบคนพาล                    2. การคบแต่บัณฑิต
            3. การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา          เป็นมงคลอันสูงสุด
........... ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ.................ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา 
............อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ.................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
             4.  การอยู่ในสถานที่อันสมควร     5. ความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แต่กาลก่อน
             6. การตั้งตนไว้โดยชอบตามทำนองคลองธรรม      เป็นมงคลอันสูงสุด
............ พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ.................วินะโย จะ สุสิกขิโต 
............สุภาสิตา จะ ยา วาจา.................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
           7. ความเป็นผู้ได้ยินได้ฟังธรรมและปฎิบัติธรรมมาก  8.  ความเป็นผู้มีศิลปวิทยา  
           9. ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนดี 10. ปฎิบัติในระเบียบวินัยเป็นอันดี  
          11.การกล่าววาจาที่เป็นธรรมและไพเราะ  เป็นมงคลอันสูงสุด
............มาตาปิตุอุปัฏฐานัง.......................ปุตตะทารัสสะ สังคะโห
............อะนากุลา จะ กัมมันตา................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
             12. การอุปัฎฐากบำรุงบิดามารดาให้เป็นสุข     13.การสงเคราะห์บุตรและภรรยาให้มีความสุข
            14. การทำการงานให้เสร็จเรียบร้อยไม่คั่งค้าง  เป็นมงคลอันสูงสุด
............ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ.............ญาตะกานัญจะ สังคะโห 
............อะนะวัชชานิ กัมมานิ ...................เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
             15. การให้ทาน  16. การประพฤติธรรม  17. การสงเคราะห์ญาติและคนใกล้ชิดทั้งหลาย
              18.การทำงานที่ไม่ประกอบด้วยโทษทั้งทางโลกและทางธรรม  เป็นมงคลอันสูงสุด
............ อาระตี วิระตี ปาปา......................มัชชะปานา จะ สัญญะโม 
............อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
              19.  การงดเว้นจากการทำบาปทั้งหลาย  20.  การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา
              21. ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย     เป็นมงคลอันสูงสุด
............ คาระโว จะ นิวาโต จะ................. สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา 
............กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
               22. การเคารพต่อบุคคลและสิ่งที่ควรเคารพ  23.ความไม่เย่อหยิ่งจองหอง  
               24. ความสันโดษยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่และสิ่งที่ตนพึงหาได้โดยชอบธรรม    
               25. ความเป็นผู้มีกตัญญญูรู้คุณที่ท่านได้ทำไว้แล้วแก่ตน  
               26.  การได้ฟังธรรมคำสอนของสัตบุรุษตามกาลเวลาอันสมควร  เป็นมงคลอันสูงสุด
............ ขันตี จะ โสวะจัสสะตา.................สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง 
............กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา.................  เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
            27.  ความเป็นผู้มีขันติความอดทน   28. ความเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย    
            29. การได้เห็นสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีลทั้งหลาย 30. การได้เจรจาสนทนาธรรมตามกาลเวลาอัน                สมควร    เป็นมงคลอันสูงสุด
............ ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ.........  อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง 
............นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ.................  เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
            31. การมีความเพียรเพื่อเผากิเลส  32.  การประพฤติพรหมจรรย์คือปฎิบัติตนให้เป็นผู้ประเสริฐ                 33.  การมีปัญญาเห็นอริยสัจทั้งหลาย   34. การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน   เป็นมงคลอันสูงสุด
............ ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ................. จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ 
............อะโสกัง วิระชัง เขมัง.................... เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
             35.  การทำจิตไม่ให้หวั่นไหวในโลกธรรมที่มากระทบ   36. การไม่ทำใจให้เศร้าโศก    
             37. การทำจิตให้ปราศจากธุลีคือกิเลสทั้งหลาย   38การทำจิตให้ถึงพระนิพพาน   
             เป็นมงคลอันสูงสุด
............เอตาทิสานิ กัตวานะ.....................  สัพพัตถะมะปะราชิตา 
............สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ..............ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯ 
               อนึ่ง เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  เมื่อได้กระทำมงคลทั้งหลายเช่นนี้แล้ว  ย่อมเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง  และย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง    ทั้งหมดนั้นเป็นมงคลอันสูงสุด ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นแล ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น