มงคลแตกต่างกันไปจนหาข้อสรุปยาก ครั้งหนึ่งพากันไปพบพระพุทธเจ้า ถามถึงเรื่องที่เป็นมงคลแก่
ชีวิตท่านสอน ว่า ทำเรื่อง 38 ประการต่อไปนี้จะเป็น มงคลแก่ชีวิต และเป็น อุดมมงคลคือมงคลอันสูงสุด ข้อสังเกตคือ ทุกเรื่องที่ท่านสอน เป็นความจริง ใครปฏิบัติก็เป็นมงคลที่ดียิ่งสำหรับผู้นั้น พุทธศาสนิกชนเราเมื่ออยากได้มงคลแก่ชีวิต ลองเลือกไปปฏิบัติดู แล้วเราจะได้มงคลตามปรารถนา เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นได้คัดเอาบทสวดมงคลสูตร พร้อมคำแปลจากหนังสือสวดมนต์แปล มาให้อ่านดูด้วยครับ
---------------
ขุนทอง ศรีประจง
มงคลสูตร + คำแปล
.........เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิ อุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อะภิวาเทตวา เอกะมันตัง อัฏฐาสิ ฯ เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิฯ
.........ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี ครั้งนั้นแล ครั้นปฐมยามล่วงไปแล้ว เทวดาตนหนึ่งมีรัศมีงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า
..........พะหู เทวา มะนุสสา จะมังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานังพรูหิ มังคะละมุตตะมังฯ
หมู่เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก ผู้หวังความสวัสดี ได้คิดถึงเรื่องมงคลแล้ว ขอพระองค์ทรงตรัสบอกทางมงคลอันสูงสุดเถิด พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
.......... อะเสวะนา จะ พาลานัง.............. ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
............ปูชา จะ ปูชะนียานัง....................เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
1. การไม่คบคนพาล 2. การคบแต่บัณฑิต
3. การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา เป็นมงคลอันสูงสุด
........... ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ.................ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา
............อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ.................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
4. การอยู่ในสถานที่อันสมควร 5. ความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แต่กาลก่อน
6. การตั้งตนไว้โดยชอบตามทำนองคลองธรรม เป็นมงคลอันสูงสุด
............ พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ.................วินะโย จะ สุสิกขิโต
............สุภาสิตา จะ ยา วาจา.................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
7. ความเป็นผู้ได้ยินได้ฟังธรรมและปฎิบัติธรรมมาก 8. ความเป็นผู้มีศิลปวิทยา
9. ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนดี 10. ปฎิบัติในระเบียบวินัยเป็นอันดี
11.การกล่าววาจาที่เป็นธรรมและไพเราะ เป็นมงคลอันสูงสุด
............มาตาปิตุอุปัฏฐานัง.......................ปุตตะทารัสสะ สังคะโห
............อะนากุลา จะ กัมมันตา................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
12. การอุปัฎฐากบำรุงบิดามารดาให้เป็นสุข 13.การสงเคราะห์บุตรและภรรยาให้มีความสุข
14. การทำการงานให้เสร็จเรียบร้อยไม่คั่งค้าง เป็นมงคลอันสูงสุด
............ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ.............ญาตะกานัญจะ สังคะโห
............อะนะวัชชานิ กัมมานิ ...................เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
15. การให้ทาน 16. การประพฤติธรรม 17. การสงเคราะห์ญาติและคนใกล้ชิดทั้งหลาย
18.การทำงานที่ไม่ประกอบด้วยโทษทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นมงคลอันสูงสุด
............ อาระตี วิระตี ปาปา......................มัชชะปานา จะ สัญญะโม
............อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
19. การงดเว้นจากการทำบาปทั้งหลาย 20. การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา
21. ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย เป็นมงคลอันสูงสุด
............ คาระโว จะ นิวาโต จะ................. สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา
............กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
22. การเคารพต่อบุคคลและสิ่งที่ควรเคารพ 23.ความไม่เย่อหยิ่งจองหอง
24. ความสันโดษยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่และสิ่งที่ตนพึงหาได้โดยชอบธรรม
25. ความเป็นผู้มีกตัญญญูรู้คุณที่ท่านได้ทำไว้แล้วแก่ตน
26. การได้ฟังธรรมคำสอนของสัตบุรุษตามกาลเวลาอันสมควร เป็นมงคลอันสูงสุด
............ ขันตี จะ โสวะจัสสะตา.................สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง
............กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
27. ความเป็นผู้มีขันติความอดทน 28. ความเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย
29. การได้เห็นสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีลทั้งหลาย 30. การได้เจรจาสนทนาธรรมตามกาลเวลาอัน สมควร เป็นมงคลอันสูงสุด
............ ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ......... อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง
............นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ................. เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
31. การมีความเพียรเพื่อเผากิเลส 32. การประพฤติพรหมจรรย์คือปฎิบัติตนให้เป็นผู้ประเสริฐ 33. การมีปัญญาเห็นอริยสัจทั้งหลาย 34. การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน เป็นมงคลอันสูงสุด
............ ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ................. จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ
............อะโสกัง วิระชัง เขมัง.................... เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
35. การทำจิตไม่ให้หวั่นไหวในโลกธรรมที่มากระทบ 36. การไม่ทำใจให้เศร้าโศก
37. การทำจิตให้ปราศจากธุลีคือกิเลสทั้งหลาย 38การทำจิตให้ถึงพระนิพพาน
เป็นมงคลอันสูงสุด
............เอตาทิสานิ กัตวานะ..................... สัพพัตถะมะปะราชิตา
............สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ..............ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯ
อนึ่ง เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อได้กระทำมงคลทั้งหลายเช่นนี้แล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง และย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง ทั้งหมดนั้นเป็นมงคลอันสูงสุด ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นแล ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น