วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วันแม่ 12 สิงหาคม 2559



วันแม่ว่าจะไม่เขียนบทกลอนแล้ว เพราะเขียนทุกปี แต่แล้วก็ทนไม่ได้ นั่งเขียนถึงแม่อีก เลยมีทั้งสำนวนร้อยแก้วร้อยกรอง ทนอ่านหน่อยแล้วกัน

---------------------








...........................แม่จ๋าแม่อยู่ไหน ..................

---------------------

ถึงวันแม่แม่จ๋าแม่อยู่ไหน..................แม่จากไปนับกาลนานนักหนา

ศกสองห้าหนึ่งสี่ยังติดตา.................โอ้มารดาป่วยหนักยากจักคลาย

พาแม่ไปหาหมอโรงบาลศูนย์............แสนอาดูรย์หมอทักยากจักหาย

ประคำร้อยรัดรอบคอหญิงชาย......อาจวางวายยากข้ามตามรูปการณ์

พาแม่กลับไปบ้านเถิดลูกรัก.............ถึงแม่จักวางวายใจยังหาญ

กลับมาตายบ้านเราโรคระราน............ยากจักผ่านแม่วอนจนอ่อนใจ

พ่อแลลูกเฝ้าดูอาการแม่...................เจ็บปวดแท้ลำบากยากแก้ไข

เอาแต่นั่งรอดูวันจักไป......................สามวันได้นั่งเฝ้าเศร้าโศกา

ฉันเป็นพระมิห่างอยู่ข้างแม่...............ทำได้แค่ส่งบุญกุศลหา

นับแต่เกิดทำดีตลอดมา....................สี่พรรษาบวชให้ได้ทำบุญ

นักธรรมเอกเปรียญสองสอบได้แล้ว.....ใจผ่องแผ้วภาวนาผลาหนุน

ด้วยอำนาจไตรรัตน์บังเกิดคุณ...........ได้เจือจุนแม่อย่าร้อนโรครุกรน

มองตาแม่รู้สึกแม่ห่วงหา...................จึงพูดจาฟังไว้ใจสับสน

ฉันเป็นพระสั่งบุญคุณสกล................จะส่งผลให้แม่ถึงแน่นอน

ถึงฉันสึกก็จะเป็นคนดีแน่..................อย่าห่วงแม่ตรึกจำคำพระสอน

ทบทวนไว้มวลกุศลทุกบทตอน.........กรรมตัดรอนมีบุญหนุนนำไป

สุคติปลายทางแน่นอนนัก.................สุดจะหักห้ามจิตวิกฤตไฉน

แม่หลับตายังยิ้มเงียบขาดใจ.............เสียงร่ำไห้รอบข้างต่างอาวรณ์

ถึงจะเศร้าครรลองร้องมิออก.............เป็นพระดอกยังจำคำพระสอน

อนิจจาวตสังขารากลอน...................ช่วยได้ตอนทุกข์ท่วมทับถึงตน

ยังจำได้คำแม่แลพ่อสั่ง....................ให้ระวังบาปบุญทุกแห่งหน

ละห่างทั่วทำดีใส่กมล......................ถึงเราจนแต่อย่าชั่วจำใส่ใจ

มุ่งทำบุญมิขาดปรารถนา..................ทำทานมามากวิธีเคยชี้ไข

อามิสทานธรรมทานขจรไป...............ทานมัยร่มเย็นเป็นมงคล

เบญจศีลทุกวันมิเคยขาด..................ก่ออำนาจจิตแกร่งอนุสนธิ์

สีมัยบุญทั้งนั้นมั่นใจตน....................ฉลาดกลภาวนาปรีชาชาญ

นั่นคือภาวนามัยได้บุญด้วย.............เพราะรู้ช่วยได้ทำกรรมอาจหาญ

บุญกุศลมากมวลทำมานาน...............อุทิศผ่านถึงแม่แน่วแน่ใจ

ขออำนาจแห่งบุญคุณกุศล................บันดาลดลถึงแม่กระแสใส

แม้นลำบากจงดลผ่านพ้นไป..............สุขแล้วให้ปรีเปรมเกษมสราญ

ขอให้ได้พบเห็นเป็นแม่ลูก...............ได้พันผูกสั่งผลกุศลผสาน

มุ่งมรรคผลดลให้พบนิพพาน...........ขอให้ท่านสบสันติ์นิรันต์เทอญ ฯ







รำลึกถึงพระคุณพ่อแม่

...จะวันพ่อหรือวันแม่ ผมจะรำลึกถึงพระคุณทั้งสองท่านเสมอเพราะ สองท่านคือผู้มีพระคุณล้นเหลือที่ไม่มีปัญญาจะชดใช้ให้สิ้นสุดไปได้ เหมือนหนี้สินเงินทองพ่อแม่ท่านให้ชีวิต ร่างกายแก่เรา จนก่อเกิดเป็นผู้คนลืมตาดูโลกนี้ได้ ช่วยให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้จนเติบใหญ่ ท่านเป็นครูฝึกสอนอิริยาบถยืนเดินนั่งนอนฝึกการกินอยู่ขับถ่าย ฝึกการพูดจา การแสดงกิริยามรรยาท ฝึกการอยู่ร่วมกับคนอื่น ในสังคม ท่านสอนมากมายกว่าจะส่งให้ครูอาจารย์ช่วยสอนอีก จนท่านพอใจจึงปล่อยให้ลูกออกเดินเส้นทางชีวิตด้วยตนเองอย่างมั่นคง คนเป็นพ่อแม่เท่านั้นถึงทำอย่างนี้ได้ แล้วลูกอย่างเราจะตอบแทนคุณท่านอย่างไร

......การตอบแทนที่ดีคือทำสิ่งที่พ่อแม่อยากได้ เป็นการตอบแทนที่ดีที่สุดพ่อแม่ส่วนมากต้องการสิ่งที่ดีงามจากลูก ให้ท่านได้ไหมล่ะ ตัวอย่าง เช่น

1. อยากให้ลูกเป็นคนว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ ไม่ซุกซน

2. อยากให้ลูกเป็นคนใจดีมีเมตตากรุณา ไม่โมโหโทโส

3. อยากให้ลูกเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตทั้งต่อหน้าและลับหลัง

4. อยากให้ลูกเป็นคนมีระเบียบวินัย รักประเพณีวัฒนธรรม

5. อยากให้ลูกเป็นคนเจรจาชอบ ไพเราะ มีสาระ เชื่อถือได้

6. อยากให้ลูกเป็นคนมีสติไม่ประมาท

7. อยากให้ลูกฉลาด ขยันในการศึกษาเล่าเรียน

8. อยากให้ลูกขยันทำการงาน

9. อยากให้ลูกมีครอบครัวที่ดี

..........ฯลฯ.........

.....จากตัวอย่างจะพบว่าสิ่งที่พ่อแม่อยากได้จากลูกมาก ๆ ไม่ใช่สิ่งของมิใช่พวงมาลัย แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวลูกนั่นเอง เวลาลูกดื้อรั้น ห้ามไม่ฟัง พ่อแม่เจ็บปวดใจมาก ถ้าอยากให้พ่อแม่ไม่เจ็บปวด ฝึกตนเองได้ไหมล่ะคิดใหม่ ลองเชื่อฟังพ่อแม่ซิ ส่วนมากท่านจะมีเหตุผลที่ห้าม มีเหตุผลที่สอนเวลาเราเชื่อฟัง จะเห็นพ่อแม่เป็นสุข อยากเห็นไหมล่ะ
….ยามเห็นลูกเป็นคนใจดีมีเมตตาต่อคนอื่น พ่อแม่บางคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ปลื้มใจมาก เห็นลูกเรียนหนังสือเก่ง จบชั้นสำคัญ ๆ ภูมิใจเหลือเกิน เอาไปคุยอวดสามวันเจ็ดวันก็ไม่จบ ดีใจเหลือเกิน วันที่กระผมตกลงใจบวชได้เห็นน้ำตาแม่ไหลตอนแกนั่งฟังหมอพราหมณ์ทำพิธีสู่ขวัญ จึงทำให้มั่นใจว่าเราทำสิ่งที่ทำให้พ่อแม่เป็นสุข แสดงว่าการที่เราทำสิ่งดีงาม นอกจากเราจะได้ผลที่ดีแก่ตัวเราเองแล้ว ยังส่งผลกระทบไปถึงพ่อแม่ด้วย มีแต่ได้กับได้
.....ไม่สงสัยบ้างเหรอว่า ทำไมเวลาเราทุกข์ยากลำบาก ใช่ว่าเราเจ็บคนเดียวเมื่อไร พ่อแม่น้ำตาตกในทุกข์ใจไม่น้อยเหมือนกันหรือเวลาเราได้ดีมีสุข อ้าวนึกว่าเราสุขคนเดียว พ่อแม่ปลื้มมากไม่น้อยไปกว่าเราหรอก ผู้หลักผู้ใหญ่บอกว่า เพราะเราได้กายใจมาจากพ่อแม่นั่นเอง แถมยังอยู่กับเราทุกวันเวลาไม่ว่าสุขหรือทุกข์่ ภาคส่วนของพ่อแม่จะสุขทุกข์ไปกับเราด้วย รักพ่อแม่ขอให้ดูแลตัวเองให้ดี ละสิ่งที่เป็นเรื่องไม่ดีงาม พยายามสั่งสมแต่สิ่งที่ดีงามแทน แบบนี้เองที่จะช่วยให้พ่อแม่มีความสุข วิธีเช่นนี้ทำได้ตลอดชีวิต แม้ท่านล่วงลับไปแล้ว ก็ยังทำได้ ลองดูสิถ้ารักพ่อแม่จริง

-----------





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น