------------------กลอนแบบอย่าง.............................
.............มีคนถามว่าผมได้แบบอย่างการแต่งกลอนจากไหน เอาแบบที่ตรงตามฉันทลักษณ์และถือเป็นครูได้ ตอบตรง ๆ ได้เหมือนกันครับผมได้แบบอย่างกลอนของท่านสุนทรภู่ ชอบมาก อ่านจบแทบทุกเรื่อง
ขนาดตอนทำวิทยานิพนธ์ยังเลือกการทำสื่อการสอนเรื่องนิราศภูเขาทองแบบว่าชอบมากว่างั้นเถอะ ลองยกมาอ่านซักสองสามบทแล้วจะวิเคราะห์ให้ดูว่า มีอะไร ดี ๆ อยู่ในนั้น ( ขอนำโพสที่หน้าเฟซ เผื่อคนอื่นที่สนใจได้อ่านด้วย )
บทกลอนที่นำมาเป็นตัวอย่าง
.......๏ ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง…มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา…….... ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ…….…... สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย…………..…. ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก…....... สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป…..…….. แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ
จากนิราศภูเขาทอง
1. ผมชอบอ่านบทกลอนท่านสุนทรภู และใช้เป็นแบบอย่างสำหรับแต่งบทกลอนของตัวเอง ในแง่ฉันทลักษณ์ เราจะเห็นได้ ดังนี้
.........ท่านนิยมให้คำวรรคละแปดคำ ก็มีบ้างบางวรรคมากหรือน้อยกว่า
แต่ดูแล้วก็เข้าใจ เพราะมีคำหลายพยางค์ที่อ่านรวบจังหวะกลอนได้
.........จังหวะกลอบแบบ 3-2-3 ใช้ได้ดีกับทุกวรรค ทำให้อ่านไพเราะ
วรรคที่เกินอ่าน 3-3-3 ก็ยังอ่านได้ดี
.........ท่านระวังการใช้คำท้ายวรรคในแต่ละบท ไม่มีคำที่อ่านแล้วติดขัด
เพียงกลอน 3 บท ที่ยกมาให้อ่านจะพบว่า
วรรคที่ 1 ไม่นิยมลงท้ายด้วยเสียงสามัญ เสียงอื่นเห็นใช้ทั่วไป
โขมง (จัตวา) สำเร็จ (เอก) รัก (โท)
วรรคที่ 2 นิยมเสียงจัตวาลงท้ายมากกว่าเสียงอื่น ๆ
เสา (จัตวา) หมาย (จัตวา) ไฉน (จัตวา)
วรรคที่ 3 นิยมลงท้ายด้วยเสียงสามัญ
เรา (สามัญ) วอดวาย(สามัญ) ไป (สามัญ)
วรรคที่ 4 นิยมลงท้ายด้วยเสียงสามัญ
น่าอาย (สามัญ) เกินไป (สามัญ) ค่ำคืน (สามัญ)
ยกตัวอย่างมาแค่ 3 บท แสดงให้เห็นการใช้คำลงท้ายวรรค ในระดับเสียงวรรณยุกต์ที่ท่านนิยมใช้ ถ้าอยากให้มั่นใจก็ควรอ่านมาก ๆจะได้เห็นคำลงท้ายวรรคที่ท่านใช้แตกต่างออกไป
2. ผมชอบกลอนสุนทรภูที่ท่านมักสอดแทรกสิ่งสอนใจคนอ่านไว้แบบไม่ให้เสียเวลาอ่านเพลิน ๆไปเฉย ๆ ได้คติ คำเตือน ความรู้ไปด้วยดังตัวอย่าง กล่าวถึงโทษของเหล้า บทถัดจากนี้ก็กล่าวถึงการพูดจา
การสอดแทรกแบบนี้มีมากในบทกลอนของท่าน
๏ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์………. มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร……... จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ
จากนิราศภูเขาทอง
3. อ่านบทกลอนท่านสุนทรภู่ เข้าใจความรู้สึกขณะที่ท่านเขียนได้เลยว่า ดีใจ เสียใจ รัก ชอบ ไม่ชอบ เพราะความสามารถในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดลงในตัวอักษรท่านทำได้ดีเยี่ยม ดูตัวอย่าง
๏..สำรวลกับเพื่อนรักสะพรักพร้อม อยู่แวดล้อมหลายคนปรนนิบัติ
โอ้ยามเข็ญเห็นอยู่แต่หนูพัด………. ช่วยนั่งปัดยุงให้ไม่ไกลกาย
จนเดือนเด่นเห็นกอกระจับจอก…….. ระดะดอกบัวเผื่อนเมื่อเดือนหงาย
เห็นร่องน้ำลำคลองทั้งสองฝ่าย…. .ข้างหน้าท้ายถ่อมาในสาคร
จนแจ่มแจ้งแสงตะวันเห็นพันธุ์ผัก... ดูน่ารักบรรจงส่งเกสร
เหล่าบัวเผื่อนแลสล้างริมทางจร….. ก้ามกุ้งซ้อนเสียดสาหร่ายใต้คงคา
สายติ่งแกมแซมสลับต้นตับเต่า….. เป็นเหล่าเหล่าแลรายทั้งซ้ายขวา
กระจับจอกดอกบัวบานผกา………. ดาษดาดูขาวดั่งดาวพราย
จากนิราศภูเขาทอง
4. การสอดแทรกความรู้ความเข้าใจธรรม ท่านสุนทรภูบวชอยู่วัดหลายพรรษา ท่านถ่ายทอดหลัก
ธรรมไว้ในบทกลอนอย่างแนบเนียนเข้าใจง่าย
๏ ขอเดชะพระเจดีย์คีรีมาศ……...…. บรรจุธาตุที่ตั้งนรังสรรค์
ข้าอุตส่าห์มาเคารพอภิวันท์………... เป็นอนันต์อานิสงส์ดำรงกาย
จะเกิดชาติใดใดในมนุษย์………...... ให้บริสุทธิ์สมจิตที่คิดหมาย
ทั้งทุกข์โศกโรคภัยอย่าใกล้กราย.. ....แสนสบายบริบูรณ์ประยูรวงศ์
ทั้งโลโภโทโสแลโมหะ ………….....ให้ชนะใจได้อย่าใหลหลง
ขอฟุ้งเฟื่องเรืองวิชาปัญญายง…….. ทั้งให้ทรงศีลขันธ์ในสันดาน
อีกสองสิ่งหญิงร้ายแลชายชั่ว…........ อย่าเมามัวหมายรักสมัครสมาน
ขอสมหวังตั้งประโยชน์โพธิญาณ....... ตราบนิพพานภาคหน้าให้ถาวรฯ
จากนิราศภูเขาทอง
5. การเล่นสัมผัสใน ถือเป็นจุดเด่นกลอนท่านสุนทรภู่ เพราะท่านสามารถสอดแทรกสัมผัสในไว้แทบทุกวรรค ดังตัวอย่างบทกลอน ขอเดชะพระเจดีย์คีรีมาศ ฯ จะเห็นสัมผัสใน แบบนี้
. ...กลอนวรรคที่วางอยู่ด้านหน้า คือวรรคที่ 1 และ ของบท ตำแหน่งคำที่เล่นสัมผัสใน
OOO OO OOO มักแต่งให้คำที่ 3 และคำที่ 4 สัมผัสสระ กัน
OOO OO OOO มักแต่งให้คำที่ 5 สัมผัสสระกับคำที่ 6 หรือ 7
OOO OO OOO อาจมีสัมผัสพยัญชนะแทรกบ้างไม่มากนัก
OOO OO OOO แต่สัมผัสสระมีแทบทุกวรรค
......กลอนวรรคด้านหลังได้แก่วรรคที่ 2และ 4 แต่ละบท OOO OO OOO
คำที่ 3 ตำแหน่งรับสัมผัสจากคำท้ายวรรคแถวหน้า OOO OO OOO
ไม่พบว่าท่านเล่นสัมผัสในแบบสัมผัสสระกับคำที่ 4 OOO OO OOO
แต่พบว่าท่านเล่นสัมผัสพยัญชนะแทน หรือไม่ก็ทิ้งไป OOO OO OOO
ส่วนคำที่ 5 ยังเล่นสัมผัสในแบบสัมผัสสระได้กับคำที่ 6 หรือ 7
.........จากข้อคิดเห็นส่วนตัวที่นำเสนอไว้นี้ น่าจะพอตอบคำถามที่ว่า ผมใช้กลอนแบบอย่างที่ถือเป็นครูคือ กลอนท่านสุนทรภู่ ทุกเรื่องแหละครับ กลอนคนอื่น ๆ ที่ไพเราะก็มีนะ แต่ไม่ค่อยได้อ่านบ่อยเหมือนกลอนสุนทรภู่ ตัวอย่างกลอนที่กระผมแต่งเองก็พอมีนะครับ ลองไปดูที่ผมอัพไว้ที่เวบบลอกต่อไปนี้ ( คัดลอกไปวางกูเกิล ค้นหาให้ก็ได้ หรือวางที่แถบ เมนูบาร์ URL ของบราวเซอร์ก็ได้)
http://nrongnu59.blogspot.com/
http://khuntong52.blogspot.com/
http://mykht.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น