วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วิจัยในชั้นเรียน

....ทำไมครูต้องทำวิจัยในชั้นเรียน..........................
----------------------.
............วันนี้งดเล่าทำกับข้าวซักวัน มีลูกศิษย์เห็นเราเขียนวันเกิดลูกสาวพูดถึงอยากให้ลูกสาวเป็นครูที่รู้จักทำงานเคราะห์วิจัยไปขณะทำการสอน เขาอยากได้รายละเอียดเอาไปนิเทศครูบ้าง เขาเคยฟังตาพูดถึงการวิจัยในชั้นเรียนในวงสนทนา เคยหอบงานวิจัยในชั้นเรียนที่ทำมาคุยกับตา ตอนนี้เป็น ผอ.ระดับ 9 แล้ว แต่ก็อยากได้ข้อมูลจากตาซึ่งเป็นครูเก่าเขาเอง เลยค้นหาเอกสารเก่า ๆ มาปัดฝุ่น ส่งไปให้ แล้วถือโอกาส โพสเล่นในเฟสบ้างเพราะเห็นชื่อเพื่อนครูหลายคนแวะมาเยี่ยมเพจ น่าจะได้ข้อคิดที่มีสาระบ้าง
.............ผมเป็นครูแบบเก่า แต่งตัวไม่ค่อยทันสมัย แถมสะพายย่ามเก่า ๆที่เหลือแจกตอนลาสิกขาบทมาสอบบรรจุครูหลายใบใหญ่ ๆ สีกักแบบของพระป่าใช้นั่นแหละ ทนทานดี ใส่ของได้เยอะ พอมันขาดก็หาซื้อแบบมีลวดลายขิดดูดีหน่อยแต่ก็เป็นย่ามใส่ของจนกลายเป็นภาพลักษณ์ครูบ้านนอก ไปร่วมงานประชุมสัมนาก็ไปแบบนั้นแหละ ได้พบเพื่อนครูอาจารย์ ฟังเขาสนทนาฮาเฮกันหยอกเย้ากันบ้าง บ่นว่าเด็กบ้าง นินทาผู้บริหารบ้าง เรานั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ไม่สนใจวันนั้นเขาเชิญพวกครูเรามาฟังวิทยากรจากกรม
มาพูดเรื่องวิจัยในชั้นเรียน เห็นด้วยนะที่เขารณรงค์ให้ครูทำ เขาเลิกกันบ่ายสอง พวกเราเลยจับกลุ่มกัน ครูคนหนึ่งคือศิษย์มันชวนให้อยู่ทานข้าว สี่โมงค่อยกลับกัน เขาย่างหมูไว้ตัวหนึ่ง ครูสิบกว่าคน กินกันไปคุยกันไป ถองเบียร์ไปสองสามแก้วชักมึน ๆเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับวิจัยในชั้นเรียนที่ฟังมาใหม่ ๆ แต่แปลก
ไม่มีคนตอบ มันหันมามองเรา แบบว่า อาจารย์พูดซิ แหมพวกนี้รู้ดีว่าเรามันคนรู้น้อยแต่พูดมาก เลยต้องบรรยายนอกเวทีซิ
..........เป็นครูต้องเป็นนักวิเคราะห์วิจัยครับ พวกคุณทำการสอนมีข้อมูลทางวิชาการเกิดขึ้นมากมาย เสียดาย พวกคุณโยนทิ้งไปแล้ว ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ พออยากเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง เขาว่าครูต้องมีผลงานทางวิชการนะเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที บางคนหมดท่าต้องไปจ้างวานคนอื่นทำให้ เอามาส่งปรากฏไม่ใช่ผลงานที่ดีไม่ผ่านเกณฑ์ ต้องแก้แล้วแก้อีก ไม่คอยจำ จะขอเลื่อนตำแหน่งครั้งต่อมาต้องทำผลงานอีก ทุกข์หนักอีกเพราะอะไร ก็เพราะครูไม่อยากฝึกเป็นนักวิเคราะห์วิจัยกันบ้างเลยน่ะซิ
...............วิจัยในชั้นเรียน เป็นงานวิจัยของจริงไม่ใช่แบบฝึกหัดวิจัยอย่างวิทยานิพนธ์ พูดอย่างนี้คนเคยทำวิทยานิพนธ์อย่าพึ่งโกรธนะ เหตุผลที่ผมเรียกแบบฝึกหัดวิจัย เพราะมันเป็นหลักสูตรการเรียนระดับมหาบัณฑิต เขาบังคับให้ทำ แถมต้องทำตามแบบมีคู่มือให้ มีอาจารย์ที่ปรึกษาให้ มันก็เลยเป็นการฝึกหัดทำวิจัยไม่ต้องกลัวจะทำผิดแบบแผน เพราะที่ปรึกษาเขาคุมอยู่บางท่านอาจารย์คุมดีมาก พิมพ์สำนวนภาษาไม่ดีให้แก้ใหม่ ขนาดนั้นแหละแต่ทำวิจัยในชั้นเรียนนี่ เขาให้ทำขณะที่ครูจัดการเรียนการสอน แล้วมันมีปัญหาอะไรบ้างล่ะที่จะนำไปวิเคราะห์วิจัยได้ อย่าไปถามนักวิจัยเขานะ เขาจะหัวเราะเยาะเอาเพราะงานวิจัยของครู ต้องใช้ปัญหาและข้อมูลจากห้องเรียนนี่แหละดีที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด และมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนมากที่สุด
...........ทำไมสื่อการสอนที่ผมจัดหามาคิดว่าดีที่สุดแล้วนะ แต่พอเอามาสอนไม่ค่อยดีเลย ทำไมเด็กกลุ่มหนึ่งได้คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ตลอด ผมสอนไม่ดีรึเปล่าผมใช้ข้อสอบเก่ามาทดสอบกลางภาค ทำไมเด็กทำคะแนนต่ำมาก ข้อสอบยากเกินไปรึเปล่า ผมสอนซ่อมเสริมเตรียมสอบปลายภาคให้ แต่ทำไมเด็กได้คะแนนน้อยกันจัง ไม่เคยตอบตัวเองได้เลย หรือถึงตอบก็ตอบแบบไม่เป็นเชิงวิชาการสรุปเอาดื้อ ๆ โดยขาดข้อมูลหลักฐาน ทำไมไม่หาข้อมูลมาวิเคราห์วิจัยหาข้อสรุปก่อนล่ะว่า สื่อการสอนที่ใช้มีประสิทธิ ภาพระดับไหนตั้งเกณฑ์ 80 % ได้ไหม ผลสัมฤทธิ์การสอนเป็นอย่างไร ตั้งเกณฑ์ไว้ ระดับ .10 ผ่านไหม ถ้าตอบข้อสงสัยตัวเองด้วยการหาข้อมูลมาวิเคราะห์หาข้อสรุป ก็จะเป็นคำตอบเชิงวิชาการอ้างอิงจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงในชั้นเรียน ถามว่าเพิ่มงานให้ครูรึเปล่า ไม่เพิ่มนะ เพราะเป็นงานที่ครู ต้องทำอยู่แล้ว
.............แล้ววิจัยในชั้นเรียนที่จะให้ครูทำนี่มันเป็นอย่างไร ไม่ใช่จะให้ครูทำ แต่ครูทำอยู่แล้ว ครูต้องมีสื่อการสอน อย่างน้อยก็แผนการสอนเล่มหนึ่งละ ครูมีเพราะครูสมัยใหม่เขาสอนอย่างคนทำงานที่มีแผน ดูที่ไหนถึงรู้ ดูที่เขามีแผนการสอนไง เคยมีครูเถียงว่าหนูเขียนส่งเพื่อให้ท่านตรวจเฉย ๆ เวลาสอนหนูสอนมั่วไปหมด พอถามว่าแล้วเธอกำหนดเนื้อจะสอนจากไหน เขาบอกจากตำราอ่านรึยัง อ่านแล้ว แสดงว่าเธอรู้แล้วเนื้อหาจะสอนเรื่องอะไร จะสอนมั่วได้อย่างไร อึ้งซิครับ ครูเก่าทำได้ แต่ครูใหม่ต้องอ่านตำรา
หลายๆ เที่ยว นั่นคือแผนที่เขาจะเขียนมาส่งให้ตรวจ มีแผนการสอนถามว่า ครูรู้ใหมประสิทธิ์ภาพแผน การสอนที่ใช้อยู่มากน้อยแค่ไหน เคยตรวจสอบไหม นี่ไงงานวิจัยมันรออยู่ แผนการสอนฉบับเดียวกัน ใช้สอนนักเรียน 3 ห้อง ผลสัมฤธิ์ทางการเรียนต่างกันไหม ห้องไหนพัฒนาได้สูงมาก เคยตรวจสอบไหม นี่ไงวิจัยในชั้นเรียนรออยู่ แบบทดสอบที่ใช้คู่กับแผนการสอน คุณภาพ ค่า p r และประสิทธิภาพความเที่ยงตรง ค่าความเชื่อมั่นเป็นอย่างไร ตรวจสอบรึยัง นี่ก็งานวิเคราะห์วิจัยรออยู่ ไม่ใช่เพิ่มงานอย่าเข้าใจผิด แต่เป็นงานที่ครูเพิกเฉยไม่ทำมานานแล้ว จนนึกว่าไม่ใช่งานของฉัน
............การเขียนรายงานวิจัยในชั้นเรียน สมัยหนึ่งเห่อวิจัยหน้าเดียวกัน แต่ยังไม่ทันได้เข้าใจเลยว่าวิจัยหน้าเดียวมันทำได้จริงหรือ ก็ล่มสลายหายไปแล้ว คนตั้งชื่อเก่งนะวิจัยหน้าเดียว แต่คงลืมไปว่ามีนักวิจัยจำนวนมากเขาถือว่าวิจัยเป็นเรื่องใหญ่ เคยเขียนรายงานเล่มใหญ่หนาหลายร้อยหน้า จะมาเขียนหน้าเดียวได้ไงเสียชื่องานวิจัยหมด ก็เลยมีพวกไม่เห็นด้วยแอบค้านอยู่ในใจ ถ้าปรับซักหน่อยว่า สรุปผลวิจัยในชั้นเรียนย่อ ๆ หน้าเดียวจบ คือเขียนบทคัดย่อมาดูกันเหมือนเวลาอ่านงานวิจัยที่ว่าหลายร้อยหน้า เพื่อเอาผลไปอ้างอิง อ่านบทคัดย่อก็พอแล้ว นี่ไงวิจัยหน้าเดียว เสียดายที่เลิกกันไป ไม่งั้นคงได้เห็นผลวิจัยในชั้นเรียนของครูมากมาย เรื่องไหนน่าสนใจค่อยตามไปสอบถามหารายละเอียดให้ครูเขียนเล่าให้ฟังก็กลายเป็นรายงานการวิจัยในชั้นเรียนเล่มใหญ่ เอาไปอ้างอิงเลื่อนตำแหน่งก็ควรนะ
...............วงสนทนาของเราแรกเริ่มก็สิบกว่าคน ตอนนี้ก็เหลือสามคนแล้ว คงได้เวลาแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันแล้วแหละ ลูกศิษย์บอกผมเอารถไปส่งถึงบ้านเลยอาจารย์ บ้านผมห่างบ้านอาจารย์สามกิโลเมตรเอง ก็เลยได้กลับเป็นชุดสุดท้ายของการสนทนา
-------------------
23/7/2559

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น